03 ธันวาคม 2565

การยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 39 (2)

 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39

มาตรา 39  สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ดังต่อไปนี้

               (1) โดยความตายของผู้กระทำผิด

               (2) ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อได้ถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้องหรือยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย

               (3) เมื่อคดีเลิกกันตามมาตรา 3๗

               (4) เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง

               (5) เมื่อมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำผิดยกเลิกความผิดเช่นนั้น

               (6) เมื่อคดีขาดอายุความ

               (7) เมื่อมีกฎหมายยกเว้นโทษ


มาตรา 39 (2) ยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย
            การยอมความกันในคดีแพ่ง โดยไม่ได้ตกลงให้ความรับผิดอาญาระงับหรือสละสิทธิในการ
ดำเนินคดีอาญาด้วย ไม่ถือว่าเป็นการยอมความกันในคดีอาญา หรือการที่ผู้เสียหายกำหนดเงื่อนไขให้
จำเลยปฏิบัติตามก่อน จึงยอมความกันนั้น ไม่ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ
            การยอมความเป็นการที่ผู้เสียหายและผู้กระทำความผิดต่างตกลงยินยอมระงับข้อพิพาท
ระหว่างกัน คดีความผิดอันยอมความได้นั้นจะยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้

        หลักเกณฑ์การยอมความโดยถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้อง
ระงับไป มีดังนี้
            1. สิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับเฉพาะ คดีความผิดต่อส่วนตัว สำหรับข้อหาที่มิใช่
ความผิดต่อส่วนตัว สิทธิคดีอาญามาฟ้องหาระงับไปไม่ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือศาล
แล้วแต่กรณี ยังคงมีอำนาจดำเนินคดีต่อไปได้
           2. ข้อตกลงยอมความจะต้องปรากฏว่าผู้เสียหายมีเจตนาจะมิให้จำเลยผู้กระทำความผิดต้อง
รับโทษอาญา ข้อตกลงยอมความต้องชัดเจ้งว่าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความหรือสละสิทธิในการ
ดำเนินคดีอาญาต่อจำเลยแล้ว หรือพฤติการณ์แห่งคดีอาจแสดงว่าเป็นการยอมความกันแล้ว แม้ใน
สัญญาจะมิได้มีข้อความโดยชัดแจ้งว่าในคดีอาญาเป็นอันระงับไปก็ตาม แต่ถ้าตามพฤติการณ์แห่งคดี
พอถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยทำสัญญาโดยมุ่งประสงค์ให้ข้อหาทางอาญาระงับด้วย ก็ถือว่าเป็นการ
ยอมความโดยถูกต้องตามกฎหมาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องในความผิดต่อส่วนตัวระงับไป


 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น